ลูกแจ้งจับพ่อ หลังเอาแมวสุดรักไปปล่อยแล้วถูกรถชน


933

จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อคไทยแลนด์ โพสต์เรื่องราวของ ลูกสาวที่แจ้งความพ่อแท้ ๆ ตัวเอง ที่ขโมยเอาแมวไปปล่อยทิ้งจนถูกรถชนตายนั้น โดยเหตุเกิดในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
เป็นเรื่องเศร้าในครอบครัวที่ลูกสาวยืนยันต้องการให้พ่อรับโทษในผลกรรมที่ทำไว้กับสัตว์ เหตุขโมยแมวสุดรักไปปล่อยทิ้ง พบอีกทีกลายเป็นศพเพราะถูกรถชนตาย


WDT รับแจ้งเรื่องร้องเรียน ขอให้ช่วยเหลือเรื่องดำเนินคดีกับพ่อของตน สาเหตุขโมยแมวชื่อ ฮาชิ อายุ เจ็ดเดือน ของลูกสาวไปปล่อยทิ้ง ลูกตามหาจนพบเป็นศพถูกรถชนตาย สุดโศกเศร้า ตัดพ้อ คนทำไม่รู้สึกอะไรเลย จึงต้องการให้พ่อได้รับโทษ เกรงไปแจ้งความด้วยตนเอง แล้วตำรวจจะให้ไกล่เกลี่ย ซึ่งตนยอมรับไม่ได้กับการกระทำนี้ โดยลูกสาวยืนยัน อยากให้เป็นบทเรียนของพ่อว่าอย่าทำแบบนี้กับใครอีก ทุกวันนี้ ยังคงร้องไห้ไม่หยุดด้วยความรักและสงสารฮาชิ แมวน้อยผู้อาภัพ
น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าตนไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ ตนออกมาอยู่คนเดียว สาเหตุที่ออกมาอยู่คนเดียวเพราะทนพ่อที่มีอารมณ์โมโหร้าย พูดจาหยาบคาย ไม่ได้ แต่ยังมีการติดต่อพูดคุยกับแม่บ้าง
ก่อนเกิดเหตุ ตนมีธุระที่ต้องเข้ากรุงเทพฯ เลยทิ้งน้อง (แมว) พร้อมพวกกระบะทรายฝากไว้กับแม่ ส่วนน้องเป็นแมวที่ไม่ขี้เลอะเทอะ และเลี้ยงอยู่นอกบ้าน เนื่องจากที่บ้านจะเลี้ยงกระต่ายไว้ในบ้าน ทำให้แมวจะอยู่นอกบ้าน วันที่เกิดเหตุฝนตกฟ้าร้องดัง กระต่ายคงตกใจวิ่งไปมาในบ้านทั้งคืน พอเช้ามากระต่ายตาย พ่อมาโทษว่าสาเหตุเกิดจากแมวของตน ซึ่งมันจะเป็นไปได้ไง เพราะกระต่ายเลี้ยงอยู่ในบ้าน แมวอยู่ในกรงนอกบ้าน


ผ่านไปวันหนึ่งแม่บอกดูโลเคชั่นของแมวหน่อยว่าอยู่ไหน ตนก็ดูให้ เพราะได้ติดแอร์แท็กไว้ที่คอแมว พบว่าอยู่อีกซอยที่ไม่ใช่ซอยบ้าน จึงสงสัยว่าทำไมน้องไปอยู่ตรงนั้น ปกติน้องเป็นแมวที่กลัวคนและไม่เคยวิ่งไปไหนไกล ตนได้ถามพ่อว่าเห็นแมวหรือไม่ พ่อบอกไม่เห็น ตนกับแม่จึงหาตรงที่แอร์แท็กแสดงครั้งสุดท้าย แต่ก็หาไม่เจอ
ต่อมามีคนแท็กมาหาตนในกลุ่มโซเชียลแมว ว่าใช่แมวตัวนี้หรือไม่ ซึ่งใช่แมวตนจริง ๆ จึงติดต่อคนโพสต์ไป และได้ถามคนเจอ เขาบอกว่าตอนเที่ยงกำลังขายของอยู่ ได้ยินหมาเห่า แล้วเห็นว่าหมากำลังไล่กัดแมวอยู่ เขาก็ให้แฟนเขาไปเอาแมวมา ขณะนั้นมีรถพ่วงข้างมาแล้วอ้างว่าเป็นแมวเขา เขาก็สงสัยแต่ก็ให้รถพ่วงข้างไป เขายังบอกรถพ่วงข้างว่าเอาน้องใส่แบบนั้นได้อย่างไร เดี๋ยวน้องก็กระโดดออก แต่คนที่อ้างเป็นเจ้าของแมวก็ไม่สนใจ ขับรถออกไปได้แป๊ปเดียวก็มีเสียงร้อง เขาก็ไปดู พบว่าแมวกระโดดออกจากรถพ่วงข้างแล้วโดนรถชน
ตอนนั้นน้องยังไม่ตาย แต่หลบไปอยู่ใต้ท้องรถ คนที่อ้างเป็นเจ้าของแมวก็ไปเอาน้องออกมากลับขึ้นรถ ชาวบ้านแถวนั้นก็สงสัยว่าไม่ใช่เจ้าของแมวแน่ ๆ เพราะไม่มีอาการเสียใจเลย จนมีพี่คนหนึ่งขี่รถตามไปดู พบว่าเขาเอาแมวไปโยนทิ้งที่พงหญ้า จุดสุดท้ายที่จีพีเอสแสดง ซึ่งเขาพยายามปั้มหัวใจ แต่ช่วยไม่ได้ แต่ต่อมาแม่ได้โทรมาบอกตนว่า พ่อรับสารภาพว่าเป็นคนเอาแมวไปปล่อยวัด มันเลยโดนรถชนตาย จากนั้นพ่อยังสารภาพกับน้องว่า พ่อเป็นคนเอาแอร์แท็กไปทิ้งน้ำ
ตนถามพ่อว่า ที่ถามตอนแรกว่าเห็นแมวไหม แล้วตอบว่าไม่เห็น ทำไมพ่อถึงทำแบบนั้น พ่อตอบเพียงว่า แค่จะเอาแมวไปปล่อยวัด แต่แมวมาถูกรถชนตาย พ่อไม่ได้ตั้งใจ ส่วนที่ตนไปแจ้งความ เพราะว่าอยากให้พ่อรู้ในสิทธิของคนอื่นบ้าง ไม่ใช่เป็นพ่อแม่แล้วทำอะไรก็ได้ ซึ่งตนไม่ได้ทิ้งแมวให้เขา แค่เอาไปฝากเขาเลี้ยงก่อนเท่านั้น


Like it? Share with your friends!

933

Comments

comments